การสอบวัดระดับความรู้ทางพระพุทธศาสนา BSPT (GS-DOU)
Buddhist Studies Proficiency Test by Graduate School, Dhammakaya Open University
คือ การสอบวัดระดับความรู้ทางพระพุทธศาสนาของพระภิกษุ พระภิกษุณี และบุคคลทั่วไปที่ต้องการวัดความรู้และทักษะทางพระพุทธศาสนา 6 ระดับ คือ ความจำ ความเข้าใจ การนำหลักพุทธธรรมไปใช้ การวิเคราะห์ การประเมิน และการนำหลักพุทธธรรมมาสร้างสรรค์เป็นองค์ความรู้หรือกระบวนการพัฒนาบุคคลในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาตนเอง การทำงาน และการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
ประเภทการสอบ
BSPT (GS-DOU)
				> ประเภทที่ 1: เพื่อทราบระดับความรู้ทางพระพุทธศาสนาของตนเอง
> ประเภทที่ 2: เพื่อนำผลสอบไปใช้ประกอบการสมัครเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต
> ประเภทที่ 3: เพื่อขอใบรับรองความรู้และทักษะทางพระพุทธศาสนา
ค่าธรรมเนียมการสอบ: พิเศษ! สมัครวันนี้ – วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ไม่มีค่าธรรมเนียมในการสอบ
ค่าธรรมเนียมการสอบปกติ: ประเภทที่ 1 ค่าธรรมเนียม 300 บาท 
                                              ประเภทที่  2 และ 3 ค่าธรรมเนียม 600 บาท
คำอธิบายในการเตรียมตัวสอบแต่ละประเภท
– การสอบประเภทที่ 1 ศึกษาขั้นตอนและวิธีการสอบที่เจ้าหน้าที่ส่งไปให้ แล้วสามารถสอบด้วยตนเองเวลาใดก็ได้ ภายใน 7 วันนับจากวันที่ได้รับข้อมูลการเข้าสอบ โดยไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่คุมสอบ และสอบได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้น
– การสอบประเภทที่ 2 และ 3 เจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับไปเพื่อนัดหมายวันและเวลาสอบ และติดตั้งโปรแกรมสำหรับการสอบออนไลน์ ในวันสอบ เจ้าหน้าที่จะคุมสอบด้วยการรีโมตหน้าจอ (Remote Desktop) ตลอดช่วงเวลาที่สอบ
การสมัครสอบ
BSPT (GS-DOU)
				1. สแกน QR Code เพื่อกรอกแบบฟอร์มสมัครสอบออนไลน์
2. ระบุประเภทการสอบที่ท่านต้องการมากที่สุดในการสอบครั้งนี้เพียง 1 ข้อ
- ประเภทที่ 1 เพื่อทราบระดับความรู้ทางพระพุทธศาสนาของตนเอง
- ประเภทที่ 2 เพื่อนำผลสอบไปใช้ประกอบการสมัครเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต
- ประเภทที่ 3 เพื่อขอใบรับรองความรู้และทักษะทางพระพุทธศาสนา
3. กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มสมัครสอบออนไลน์ให้ครบถ้วนและกดยืนยันการส่ง
4. การชำระค่าธรรมเนียม: หากท่านสมัครวันนี้ – วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ไม่มีค่าธรรมเนียมในการสอบ
5. เจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับและยืนยันการสมัครสอบตามช่องทางที่ท่านแจ้งไว้ภายใน 3 วันหลังได้รับข้อมูลการสมัครสอบ กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่หากท่านยังไม่ได้รับการติดต่อภายใน 3 วัน ⇒ โทร. 08 6326 3857
6. เมื่อท่านได้รับการยืนยันการสมัครสอบจากเจ้าหน้าที่ จะได้รับข้อมูลดังนี้
6.1 ลิงก์เข้าระบบสอบออนไลน์ พร้อมชื่อเข้าใช้ระบบ (username) และ รหัสผ่าน (password)
6.2 คำชี้แจงในการสอบและวีดีโออธิบายวิธีการทำข้อสอบออนไลน์
*สำคัญ: 1) กรุณาอ่านคำชี้แจงในการทำข้อสอบและดูวีดีโออธิบายการทำข้อสอบออนไลน์ก่อนทำข้อสอบ เพื่อประโยชน์ในการสอบของท่านเอง
2) การสมัครโดยไม่มีค่าธรรมเนียมต้องสมัครภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 โดยมีสิทธิ์ในการสมัครสอบและทำการสอบโดยไม่ต้องชำระค่าธรรมเนียมได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้น
VDO แนะนำการสมัคร
BSPT (GS-DOU)
				การทำข้อสอบและรับผลคะแนนสอบ
1. การทำข้อสอบ
ท่านสามารถข้อสอบทำได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้น เมื่อคลิกปุ่มเริ่มทำการสอบแล้ว ระบบจะนับเวลาถอยหลัง เมื่อหมดเวลาระบบจะบันทึกการทำข้อสอบของท่านและปิดระบบโดยอัตโนมัติ
2. การรับผลคะแนนสอบ
ท่านจะได้รับเอกสารแจ้งผลสอบภายใน 7 วันหลังการสอบ ตามช่องทางที่ท่านแจ้งไว้ในใบสมัคร (อีเมลหรือไลน์เท่านั้น)
3. การนำผลสอบไปใช้
จะมีอายุการใช้งานตามวัตถุประสงค์การสอบ ซึ่งระบุไว้ในเอกสารแจ้งผลสอบ
วัตถุประสงค์การสอบ BSPT (GS-DOU) 
และการนำผลสอบไปใช้
				เนื่องจากวัตถุประสงค์ในการสอบมี 3 ประเภท คือ 1) สอบเพื่อทราบระดับความรู้ทางพระพุทธศาสนาของตนเอง 2) สอบเพื่อนำผลสอบไปใช้ประกอบการสมัครเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต และ 3) สอบเพื่อขอใบรับรองความรู้และทักษะทางพระพุทธศาสนา ผลสอบจะนำไปใช้ได้ตามเงื่อนไขดังนี้
1. เพื่อสมัครเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต
ผู้ที่ต้องการสมัครเข้าศึกษาในหลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมกาย แคลิฟอร์เนีย สามารถนำผลสอบวัดระดับความรู้ทางพระพุทธศาสนา BSPT (GS-DOU) ที่ได้ผลคะแนนสอบตั้งแต่ 50% ขึ้นไป และมีอายุไม่เกิน 1 ปีถึงวันที่นำมาใช้ในการสมัครเข้าศึกษาต่อ มายื่นพร้อมเอกสารการสมัครอื่น ๆ เพื่อทดแทนการสอบข้อเขียนวิชาความรู้พื้นฐานทางพระพุทธศาสนาได้
ในการสอบประเภทที่ 1 ผู้เข้าสอบสามารถสอบเวลาใดก็ได้ตามที่สะดวก โดยไม่มีการรีโมตหน้าจอ (Remote Desktop) จากเจ้าหน้าที่คุมสอบ ผลสอบประเภทที่ 1 ที่ได้คะแนนสอบตั้งแต่ 50% ขึ้นไป สามารถนำเอกสารผลสอบมายื่นเพื่อใช้แทนการสอบข้อเขียนในวิชาความรู้พื้นฐานทางพระพุทธศาสนาได้ แต่ในการสอบสัมภาษณ์จะมีการสอบวัดความรู้ทางพระพุทธศาสนาแบบปากเปล่าร่วมด้วยเพื่อยืนยันระดับความรู้ทางพระพุทธศาสนา ร่วมกับสอบข้อเขียนเพิ่มเติมในวิชาความถนัดและภาษาอังกฤษพื้นฐาน
ส่วนการสอบประเภทที่ 2 และ 3 จะมีระบบการสอบออนไลน์ที่มีการรีโมตหน้าจอ (Remote Desktop) โดยเจ้าหน้าที่ตลอดเวลาที่ทำการสอบ ดังนั้น ผู้ที่เลือกสอบประเภทที่ 2 และ 3 และได้ผลคะแนนสอบตั้งแต่ 50% ขึ้นไป สามารถนำผลสอบนี้มาใช้แทนการสอบข้อเขียนในวิชาความรู้พื้นฐานทางพระพุทธศาสนาได้โดยสมบูรณ์ และสอบข้อเขียนเพิ่มเติมในวิชาความถนัดและภาษาอังกฤษพื้นฐานเท่านั้น และมีการสอบสัมภาษณ์ตามกระบวนการสอบเข้าศึกษาต่อทั่วไป
2. การใช้ผลสอบเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ
กรณีที่ผู้เข้าสอบต้องการใบรับรองเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในลักษณะต่าง ๆ ต้องปฏิบัติดังนี้
2.1 เพื่อขอใบรับรองความรู้และทักษะทางพระพุทธศาสนา
1) ต้องเลือกวัตถุประสงค์การเข้าสอบในแบบฟอร์มสมัครสอบออนไลน์เป็น ‘ประเภทที่ 3 เพื่อขอใบรับรองความรู้และทักษะทางพระพุทธศาสนา’ เท่านั้น
2) เตรียมอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และติดตั้งโปรแกรมเพื่อใช้ในการคุมสอบตามที่เจ้าหน้าที่แจ้ง
3) เข้าสอบออนไลน์ตามเวลาที่นัดหมาย
4) ได้คะแนนสอบตั้งแต่ 85% ขึ้นไปจึงจะได้รับใบรับรองความรู้และทักษะทางพระพุทธศาสนาในระดับดี และใบรับรองนี้จะมีอายุ 2 ปี นับตั้งแต่วันประกาศผลสอบ
5) ส่งเอกสารยืนยันตัวตนเพื่อขอรับใบรับรอง คือ สำเนาบัตรประชาชน/ สุทธิสงฆ์/ หนังสือเดินทาง และไฟล์รูปถ่าย
2.2 เพื่อศึกษาในหลักสูตรอบรมต่าง ๆ ของบัณฑิตวิทยาลัยฯ
ในปัจจุบันบัณฑิตวิทยาลัยฯ มีหลักสูตรอบรม 2 หลักสูตร คือ หลักสูตรอบรมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และหลักสูตรพัฒนาทักษะการสื่อสารและการเป็นวิทยากรทางพุทธศาสตร์ เมื่อได้รับผลประเมิน ‘ผ่าน’ จะได้รับวุฒิบัตรผ่านการอบรมในหลักสูตรดังกล่าว มีรายละเอียดดังนี้
1) หลักสูตรอบรมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ประกอบด้วย 4 ภาค ระยะเวลาในการอบรมภาคละ 3 เดือน
             1.1 ) ศาสตร์เพื่อความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์
             1.2) การดูแลสุขภาพเชิงพุทธบูรณาการ
             1.3) พุทธวิธีในการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
             1.4) ศาสตร์และศิลป์แห่งการอยู่ร่วมกัน
2) หลักสูตรพัฒนาทักษะการสื่อสารและการเป็นวิทยากรทางพุทธศาสตร์ (online) หลักสูตรนี้มีมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสาร การนำเสนองาน การบรรยาย และการเป็นวิทยากรทางพระพุทธศาสนาที่มีคุณภาพเพื่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนา นอกจากนี้ เนื้อหาในหลักสูตรได้ถูกออกแบบให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย เหมาะสำหรับพระภิกษุ พระภิกษุณี สามเณร บุคคลทั่วไป นักเรียน นักศึกษา และสามารถนำไปใช้ประยุกต์ใช้ในงานต่าง ๆ ได้หลากหลาย เนื้อหาการอบรมแบ่งเป็น 3 หมวด คือ
             2.1 ) หมวดองค์ความรู้ด้านพุทธธรรม
             2.2) หมวดการปฏิบัติพุทธธรรมในชีวิตประจำวัน
             2.3) หมวดเทคนิคการบรรยายทั่วไปและการบรรยายทางพุทธศาสตร์
โดยในแต่ละหมวดท่านสามารถเลือกลงทะเบียนเพื่อศึกษาทั้งหมวด หรือเลือกศึกษาเฉพาะหน่วยย่อยในแต่ละหมวดก็ได้ และในแต่ละหน่วยจะมี ‘แบบทดสอบวัดความรู้ท้ายหน่วย’ ท่านสามารถชมสื่ออย่างเดียวโดยไม่ทำแบบทดสอบ หรือทดลองทำแบบทดสอบเพื่อขอรับประกาศนียบัตรในกรณี ‘ผ่านการทดสอบ’ ก็ได้สื่อการเรียนที่น่าสนใจมีดังนี้
2.1 ) หมวดองค์ความรู้ด้านพุทธธรรม
                  หน่วยที่ 1 หลักการสำคัญในการศึกษาพุทธธรรม 
                  หน่วยที่ 2 วิเคราะห์พุทธประสงค์ในการสอนพุทธธรรมตามประเภทของผู้ฟังในพระสูตรต่าง ๆ
                  หน่วยที่ 3 พุทธธรรมสำคัญที่จำเป็นต้องรู้และแนวทางประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน*
                  หน่วยที่ 4 การบูรณาการพุทธธรรมร่วมกับทฤษฎีและแนวคิดต่าง ๆ 
                  หน่วยที่ 5 ทางลัดในการศึกษาพุทธธรรมด้วยการใช้พจนานุกรมประมวลธรรม
                  หน่วยที่ 6 เทคนิคการสร้างความน่าเชื่อถือของเนื้อหาที่นำเสนอด้วยลำดับชั้นคัมภีร์และการอ้างอิงทางวิชาการ
             หน่วยที่ 7 เทคนิคการสืบค้นพระไตรปิฎกด้วยโปรแกรม e-Tipitaka (ลง workshop เพิ่มได้)
*ผู้ที่ได้คะแนนสอบ BSPT (GS-DOU) 85% ขึ้นไป ไม่จำเป็นต้องทำแบบทดสอบในหน่วยนี้ แต่สามารถลงทะเบียนเพื่อศึกษาเนื้อหาเพิ่มเติมได้
2.2 ) หมวดการปฏิบัติพุทธธรรมในชีวิตประจำวัน
Workshop ฝึกปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวัน
2.3) หมวดเทคนิคการบรรยายทั่วไปและการบรรยายทางพุทธศาสตร์
                  หน่วยที่ 1 วิธีนำเสนองานอย่างมีประสิทธิภาพโดยเลือกใช้จุดแข็ง-ปิดจุดอ่อนของผู้บรรยาย 
                  หน่วยที่ 2 การวางโครงเรื่องที่ดีด้วยเทคนิคการ ‘เลือกเก็บ’ และ ‘ตัดออก’ และการจัดการเวลา 
                  หน่วยที่ 3 เทคนิคการจัดหมวด-เชื่อมความสัมพันธ์ของข้อมูลที่ซับซ้อนเพื่อสรุปให้เป็นแผนภาพที่เข้าใจง่าย 
                  หน่วยที่ 4 การทำสื่อประกอบการบรรยายให้เป็นตัวช่วย (ไม่เป็นตัวฉุด) และวิธีเตรียม ‘สไลด์พิเศษ’ ในยามฉุกเฉิน (พิเศษ! แถมการสอนวิธีใช้โปรแกรม Canva และเปลี่ยน PowerPoint ให้เป็น Canva)
                  หน่วยที่ 5 เทคนิคการพูดบรรยายให้ลื่นไหล
                  หน่วยที่ 6 วิธีพัฒนาตนเองเพื่อเป็นวิทยากรทางพุทธศาสตร์ที่ดี 
                  หน่วยที่ 7 การฝึกปฏิบัติเพื่อเป็นวิทยากร (workshop)


 
								